Minot, North Dakota
สวัสดีค่ะ บล็อกนี้เป็นบล็อกแรก ที่บอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้เขียนเอง
ที่เขียนบล็อกนี้ขึ้นมาเพราะอยากแชร์ประสบการณ์ให้หลายๆคนได้อ่าน และว่างพอดี
อาจจะพอมีประโยชน์แก่ผู้อ่านบ้าง 😊😇
นี่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่เราอยู่ต่างแดน
จะให้เล่าหมดคงไม่หมดเพราะมันมีเยอะมาก ส่วนหลังจากทำงานเสร็จเราก็เที่ยวต่อ
วางแผนกับเพื่อนว่าไปไหนอะไรยังไงบ้าง อยากเที่ยวให้คุ้ม
แล้วเราจะมาเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวในบล็อกต่อไปนะ บล็อกนี้อ่านๆดูแล้วอาจดูสับสนบ้าง
บางทีลำดับเหตุการณ์ข้ามกันไปมา ต้องขออภัยมาในที่นี้ด้วย
เพราะเป็นบล็อกแรกที่เราเริ่มเขียน
ยังไงก็ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามารับฟังเรื่องเล่าประสบการณ์ของเรา
ส่วนใครที่อยากไปใช้ชีวิตในต่างแดนบ้างก็ให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
และเมื่อได้ไปแล้วก็ต้องอดทนต่อทุกสถานการณ์ เอาตัวรอดให้ได้ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้
เพราะเมื่ออยู่ต่างแดนแล้วไม่ได้สะดวกสบายอย่างบ้านเราทุกอย่าง สู้ๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้ ถ้ามีคำถามหรืออยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมก็ถามมาได้นะ
อันไหนรู้ก็จะพอให้คำแนะนำได้บ้าง บายฮร้าทุกโคนนน see you next blog 😙😛
เริ่มต้นจากเราอยากไปต่างประเทศ อยากลองไปใช้ชีวิตดู
อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เลยค้นหาข้อมูลจากหลายๆที่ หลายๆคน จนตัดสินใจไปกับโครงการ
Work and Travel เพราะตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ป.ตรี
เราไปเวิร์คปี 2012 จบปี4 พอดี (สอบไฟนอลเสร็จวันสุดท้ายปุ๊บไปปั๊บ
ปุบปับไวมาก ทำเอาใจหายเหมือนกันความรู้สึกนะตอนนั้น นึกละขำตัวเอง😆) เราสมัครโครงการกับเอเจนซี่ตั้งแต่กลางปี 2011 พี่ที่เอเจนซี่ก็ใจดี เป็นกันเอง แนะนำช่วยเหลือทุกอย่าง
(การเลือกเอเจนซี่ก็มีผลเหมือนกันนะ เลือกให้ดีๆ ศึกษาเยอะๆ)
ได้สอบสัมภาษณ์วีซ่าประมาณเดือน Feb, 2012 และเดินทางในเดือนถัดไป( Mar, 2012 )
การสอบวีซ่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ
ตอนท่านกงๆสัมภาษณ์นี่มือเท้าเย็นหมดค้าบพี่น้องค้าบ 55😂สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษด้วย และแล้วก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
ดีใจสุดๆ(ในวันสอบวีซ่าเดี๋ยวจะเล่าต่อในบล็อกถัดไปนะคะ)
เป็นครั้งแรกของเราที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ตื่นเต้นมากๆ เราออกเดินทางเมื่อวันที่ Mar 13, 2012 ก่อนวันที่จะไปอยู่ๆก็รู้สึกไม่อยากไปขึ้นมาเฉยเลย มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
เราอาจไม่เคยไปที่ไหนไกลๆก็ได้(นั่งเครื่องไกลสุดก็กรุงเทพ-เชียงใหม่นะฮร๊าาา😆) ไม่มีความรู้สึกเหมือนตอนวีซ่าผ่านเลย หายหม๊ดดด...ความรู้สึกแบบนั้น(กุนี่ก็คนแปลกคนนึงนะเนี่ย😂) มีความคิดมาแว๊บนึงว่าไม่ไปละ
ทิ้งทุกอย่าง วีซงวีซ่าก็เหอะ เทคร่ะ ไม่ไปแม่งละ คิดถึงบ้าน ไม่อยากจาก
รู้สึกหวิวๆ บอกไม่ถูก ในตัวเรามันเหมือนมีความคิดขาวกับดำอะ
มันตีกันอยู่ ไอ้เราก็เหมือนเป็นตัวกลาง สับสนตัดสินใจไม่ถูก ก็เลยคิดบวกๆเข้าไว้ เราไม่ได้ไปเป็นปีสักหน่อย ไปแค่ 3-4 เดือน ละเราก็อยากไปเองหนิ อยากได้ประสบการณ์ต่างแดนด้วยไม่ใช่หรอ😕 ต้องเอาความกล้ามาสยบความกลัว ตอนนั้นพูดกับตัวเอง ตลกมาก😆😂 พอรู้สึกดีขึ้น ไม่เทละ อิอิ ลุย!!เดินหน้าต่อ😁แต่ดีอีกอย่างที่ไปกับเพื่อนอีกคนนึง (เพื่อนคนนี้เค้าไปมาหลายรอบละ
เราเลยรู้สึกอุ่นใจ) ตอนแรกเราไปกับเพื่อนอีกกลุ่ม 3 คน ที่เดียวกัน ที่รัฐ Florida พอสักพักหลังสอบสัมภาษณ์งานเสร็จ พี่เอเจนซี่เค้าก็ติดต่อมาบอกว่าที่ Florida มีปัญหาเค้าเปลี่ยนผู้จัดการเลยลดพนักงานรับแค่ 2 คน จาก 4 คน
เราเลยไม่ได้ไปรัฐนั้นกับเพื่อน ทางเอเจนซี่เค้าก็เลยให้เราเลือกรัฐใหม่ เพื่อนคนนึงตัดสินใจไม่ไป
ตอนนั้นรู้สึก Failed เลย
แต่ไอ้ความที่เราอยากไปมากเลยตัดสินใจไปคนเดียวก็ได้แว้
เดี๋ยวไปหาเพื่อนคนไทยที่นู่นเอา
ละพอดีเพื่อนที่ไปด้วยกันคนนี้เค้าก็มีปัญหาเหมือนกันเลยตัดสินใจไปที่เดียวกัน อุ่นใจขึ้น อิอิ เราเลือกรัฐใหม่ คือ North Dakota เมือง Minot ไปเป็นต่างด้าวทำแซนวิชนะฮร้าาา😄ที่ร้านอาหารฟาสฟู๊ด(Hardee’s) ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิวันที่ Mar 14, 2012 ตอนประมาณตี 3 สายการบิน Delta
Airline ต่อเครื่องที่สนามบิน NRT(Narita,Japan 6 ชม.) แล้วก็ยาวไปถึงอเมริกา(19 ชม.) ลงที่สนามบิน MSP(Minneapolis,MN) ละต่อเครื่องอีก 1 ชม. ลงสนามบิน MOT(Minot,ND) และเข้าที่พัก
(The Guest Lodge Motel) เวลาอเมริกาตรงกับวันที่ Mar 13, 2012 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม 😊
(หน้าที่พัก)
(สนามบิน ถ่ายจากหน้าที่พัก)
(ด้านซ้ายของที่พัก)
(ด้านขวาของที่พัก)
อยู่หน้าสนามบินเลย
ตอนนั้นเข้าที่พักประมาณ 3 ทุ่ม ของวันที่ 14 มี.ค. เวลาของอเมริกา (ตอนเดินทางตั้งแต่สุวรรณภูมิก็มีพี่เอเจนซี่มาดูแลน้องๆด้วยหนึ่งคนตลอดทาง
และมีเพื่อนๆที่ไปรัฐเดียวกันแต่คนละเมืองด้วยประมาณสิบกว่าคน
ตอนไปถึงก็มีพี่เอเจนซี่ที่อยู่ที่นู่นก่อนมารับ รู้สึกอบอุ่นดีกับเอเจนซี่นี้
ขอบคุณมากๆนะคะ) หลังจากนั้นก็เช็คอินห้องพัก
แยกย้ายกันเข้าห้อง ห้องนึงเค้าให้อยู่กัน 4 คน
ตอนนั้นเรากับเพื่อนอยู่กันสองคน เพราะรูมเมทยังอีกสองคนยังไม่มา เค้ามาถึงกันอีกอาทิตย์นึง และแล้วสองสาวอยู่กันในห้อง 2 คน อย่างแรกที่โหยหาคือ free wifi คร่าาา อิอิ หลังจากนั้นก็อยู่ในโลกส่วนตัวกัน
ส่งข่าวให้กับทางบ้านเพื่อนฝูงทางโซเชียลมิเดีย (ตอนต่อเครื่องที่นาริตะ ก็หา wifi ฟรีกันให้วุ่นเหมือนกัน เพื่อส่งข่าวให้กับทางบ้านว่าถึงไหนแล้ว ฮ่าๆ
เป็นอีกประสบการณ์นึง สนุกดี) หลังจากสองนางอยู่ในโลกส่วนตัวเสร็จแล้ว
นั่งมองหน้ากันหลุกหลิกๆคร้าาา เกิดอาการ Jet lag 555+😪 นอนไม่หลับกันทีเดียว
ตอนนั้นก็ตี 3 เมกา แต่บ่าย 3 บ้านเรา ก็นะ หลับกันไม่ลง กว่าจะหลับได้ก็เกือบๆเช้า ละตอนเช้าก็ตื่นก่อน 7 โมง เพื่อไปรายงานตัวที่ทำงานมีพี่เอเจนซี่ไปเป็นเพื่อน
อยากบอกว่าวันแรกที่ไปรายงานตัวเดินจร้า เรานึกว่าใกล้ ที่ไหนได้ 6 กม. เดินกันอยู่ 4 คน อากาศก็นะ
หนาวเย็นจับใจ😰 ดีที่ไม่มีหิมะ
ที่พักอยู่ North Hill แต่ที่ทำงานอยู่ South
Hill ทีแรกนึกว่าอยู่นอร์ทเพราะ Hardee’s มีอยู่ใกล้ที่พัก เราก็ดีใจที่ทำงานอยู่ใกล้ที่พัก แต่หารู้ไม่พอมาเช็ค DS-2019 มี Hardee’s 2 ที่ เราได้ที่ South แจร้ เหอะๆ
เมื่อถึงที่ร้าน(8 โมงกว่าๆ)
คนในร้านก็เฟรนด์ลี่ดีนะ เค้าก็ยิ้มให้ แล้วผู้จัดการร้านก็ออกมาพบละก็เช็คเอกสาร
พูดคุยเกี่ยบกับงาน การแต่งกาย ละสัมภาษณ์ นิดหน่อย
งานในร้านก็จะมีหน้าที่ใหญ่ๆอยู่ 2 อย่างคือ back กับ front อยู่ในครัวกับรับออร์เดอร์
เราเลือกอยู่ในครัวทำแซนด์วิชเพราะภาษาเราไม่แข็งแรงมาก เพื่อนอยู่ฟร๊อนรับออเดอร์
พอสัมภาษณ์ไรเสร็จเรียบร้อยก็ได้เริ่มงานวันถัดมา 15 มี.ค. ตามที่วีซ่าเค้ากำหนด วันแรกที่ทำงานเค้าก็ให้ดูวีดีโอ
แนะนำขั้นตอนต่างๆก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มปฏิบัติ
วันนั้นทั้งวันไม่พูดไม่จาเลยจร้า ใบ้แดกค่ะ ห้าๆ ฟังก็จับใจความไม่ได้
พูดก็สำเนียงไม่ได้ เรียกง่ายๆคือพูดแล้วฝรั่งไม่รู้เรื่อง ยิ้มอย่างเดียวคร่าา 555+ 😁 พอเริ่มทำงานได้สัก
2-3 วัน ก็เริ่มดีขึ้น เริ่มฟังเข้าใจ เริ่มพูดรู้เรื่อง มีความสุขสนุกสนาน
ทำงานหนักและเหนื่อยดี ค่าแรงได้เยอะ ละก็เริ่มหา Second job กับเพื่อน และก็ได้งานที่สองที่ Wendy’s ได้เพราะผลพลอยได้จากเพื่อนแท้ๆ
เพราะเพื่อนเคยทำมาก่อนตอนไปเวิร์คครั้งที่สอง เราก็เลยได้งานที่สองไปกับเค้า
ต้องขอบใจเพื่อนคนนี้มากๆ หลังจากนั้นก็ทำงานทั้งสองที่
ยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่สนุก ทำงานวันละ 10 ชม.
ขึ้น เยอะสุดวันก็ 16 ชม. ต่อวัน ประมาณว่าตั้งแต่ 7 โมงจนถึง 4 ทุ่ม ทำสองที่ วันหยุดก็นานๆที
ไม่มีโอกาสได้ใช้ตังค์เท่าไรเพราะทำงานอย่างเดียว ก็เลยมีตังค์เก็บค่อนข้างเยอะ
ในช่วงเดือนแรกเราทำงานอย่างนี้เป็นกิจวัตร พอเริ่มเดือนที่ 2-3 คนเริ่มมาเยอะขึ้น ในช่วงเม.ย.ส่วนมากเป็นพวกที่เรียนในกรุงเทพฯ
เพราะน้ำท่วมเลยทำให้มาช้า เราไม่ได้เรียนกรุงเทพฯเลยมาก่อนและเป็นช่วงกอบโกยรายได้
พอคนเริ่มเยอะชั่วโมงการทำงานก็เริ่มน้อยลง แต่ก็โอเคอยู่
เพราะเค้าต้องชั่วโมงให้คนมาใหม่ ที่ทำงาน Hardee's มีคนไทย 4 คน ส่วนที่ Wendy's มี 5 คน การใช้ชีวิตก็วนเวียนแบบนี้เป็นกิจวัตรประจำวันของต่างด้าวในต่างแดน 55
วันไหนหยุดก็ไปเดิน Dakota Square Mall แต่คนที่นั่นจะเรียกกันว่า Mall ช๊อปปิ้ง ซื้อของตามประสาสาวๆ
และมันดีตรงที่ว่าเป็นเงินของเราเองไม่ได้ขอพ่อกับแม่ เลยรู้สึกภูมิใจ
พอเริ่มเข้ากลางๆถึงปลายเดือนที่สาม(พ.ค.) ก็จะเริ่มมีต่างชาติใหม่เข้ามา
ที่เมืองเราจะเป็นรัสเซีย ยูเครน จาไมก้า
คนไทยก็เริ่มกลับกันแล้วเพราะวีซ่าส่วนมากอยู่กัน 3 เดือน แต่เราได้ 4 เดือน เพราะอยู่ปี 4 เพื่อนเราที่มาด้วยกันกลับไปก่อนเดือนนึง พอเริ่มเข้าเดือนที่ 4
(มิ.ย.) เริ่มเหงาละ ไม่ค่อยสนุก คนไทยส่วนมากกลับกันแล้ว
ที่ทำงานฮาร์ดี้ก็เหลือคนไทย 2 คน
ส่วนที่เวนดี้ก็ไม่มีชั่วโมงงานละ เค้ารับเด็กใหม่มาเยอะ คนเก่าๆเลยไม่มีชั่วโมง
เราก็เหลืองานทำที่เดียว เวลาเริ่มเยอะขึ้น และก็ใกล้กลับบ้านขึ้นด้วย ดีใจๆ
แต่ก็รู้สึกใจหายอยู่บ้าง เพราะที่นี่ก็ให้ประสบการณ์เราเยอะเหมือนกัน
ได้เจอคนหลายๆแบบ ถือว่าคุ้มเลยใน 3-4 เดือน
ภาษาเราก็ได้เพิ่มขึ้น และเราโชคดีอย่างหนึ่งคือเจอเพื่อนดี คนรอบตัวดี
คนในเมืองนี้อัธยาศัยดี เพราะไม่ได้มีความเป็นในเมืองอะไรมากมาย
ยังมีความเป็นชนบทอยู่บ้าง เป็นเมืองที่สงบ รู้สึกปลอดภัย
ไม่มีลิ้งค์ต่ออ่อครับ อยากอ่านต่อ
ตอบลบเพิ่งกลับจาก Minot ค่ะ ทำงานที่ Wendy's ด้วย รู้สึกคิดถึงคนที่ร้าน อยากกลับไปมากๆเลยค่ะ
ตอบลบอยากกลับไปเหมือนกัน เพื่อนที่ร้านเฟรนลี่ดี โดยเฉพาะอลิสซ่า ฮ่าๆ
ลบกำลังจะไปปีหน้าเลยค่ะไปเมืองนี้เลยอยากอ่านต่อมากๆค่ะจะรออ่านนะค่ะ
ตอบลบค่ะ เดี๋ยวว่างๆ จะมาเล่าต่อนะคะ
ลบขอบคุณนะคะ ที่แวะเข้ามาอ่าน
โชคดีน๊า ไปปีหน้า :)
พี่ไปกับ Agency ไหนอ่าครับ :")
ตอบลบพี่ไปกับอคาเด็กซ์จ่ะ ^^
ลบอยากได้เมลติดต่อพี่มากค่ะ พอดีจะไปไมนอทเหมือนกัน อยากปรึกาษามากค่ะ
ตอบลบสวัสดีค่ะ พี่ไปรัฐเดียวกับที่หนูกำลังจะไปเลยค่ะ เอเจนซี่เดียวกันด้วย แต่ยังไม่รู้เลยว่าได้เมืองอะไร
ตอบลบตอนนี้หาข้อมูลหนักมาก ตื่นเต้น นึกภาพไม่ออกว่าไปแล้วจะเป็นยังไง ฮาๆ
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่เอามาแชร์นะคะ ^__^
:)
ลบต้องติดต่อเอเจนซี่ยังไงคับผม
ลบขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆนะคะ หนูก็จะไปรัฐเดียวกับพี่ ตอนนี้เครียดมากเพราะไม่เคยไปต่างประเทศ แล้วต้องเลื่อนวันเดินทางไปเดินทางคนเดียวเพราะที่ มอ เลื่อนสอบ ไว้มีอะไรจะมาขอคำปรึกษานะคะ
ตอบลบหนู กำลังหาข้อมูลเลยคะ ไปกับ อคาเดก เหมือนกันเลยคะ
ตอบลบพึ่งโดน ยกเลิกงานมาเลยคะ ที่โรงแรม แมริออทอยู่รัฐ เซาธ์ไคโลเลน่า พี่เขาบอกว่า โรงแรมไม่ผ่าน องค์กรแลกเปลี่ยน รู้สึกเฟลมากๆเลยคะ
เหลือแค่สัมภาษณ์วีซ่า แล้วก็บิน TT ตอนนี้หนูก็เลยเลือกไป Fast Food ND นี้ละคะ
แล้วก็มาเจอที่พี่มาแชร์ ประสบการณ์ ยิ่งมั่นใจ
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์นะคะ รบกวนขอ เมลพี่ไว้ติดต่อได้มั๊ยคะ ?
ขอบคุณนะคะ